Hair Stylist & Make up Artist

ร้านเสริมสวย ARTISTAYA สุขุมวิท 105 (ลาซาล)

ร้านนี้ถูกใจ ใช่เลย

โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive)

    สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้ฝนก็เริ่มกลับมาตกอีกแล้วค่ะ ตอนเย็นๆครึ้มมาเชียว รักษาสุขภาพกันหน่อยแล้วกัน ถ้าฝนตกไม่รู้จะออกไปไหน ก็มาท่องเนต มาเยี่ยมชมบล๊อกของพี่ปุ้ยก็ได้นะคะ พี่ปุ้ยจะพยายามหาข้อมูล สาระดีๆมาฝากเพื่อนๆ ก็อยากให้เพื่อนๆ สวยสดใส สุขภาพดีเสมอตลอดไปหล่ะค่ะ มีเพื่อน ก็ช่วยแนะนำส่งลิ้งค์ต่อๆกันไปนะค่ะ หรือว่าจะสมัครสมาชิกรับข่าวสาร ก็กรอกอีเมล์ลงไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเมล์ไปรบกวน เพียงแต่ว่าหากพี่ปุ้ยมีอัพเดทเรื่องสุขภาพความสวยความงาม เพื่อนๆจะได้ไม่พลาดอัพเดทข่าวสารหน่ะค่ะ

    วันนี้ ก็มีเรื่องเกี่ยวกับโรคทางจิต มาเล่าให้ฟังหน่ะคะ เพื่อนๆหลายคนอาจจะเคยเจอเพื่อนของเรามีอาการแบบนี้อยู่ก็ได้ค่ะ ลองสังเกตดูนะคะ ว่าเพื่อนอขงเรามีอาการย้ำคิดย้ำทำอยู่หรือเปล่า อาการย้ำคิดย้ำทำเป็นแบบไหน แบบไหนจึงจะเรียกว่าอาการย้ำคิดย้ำทำ วันนี้เรามารู้จักโรคนี้กันนะค่ะ

    โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive - Compulsive Disorder)
เป็นโรคที่พบบ่อย ซึ่งอาการย้ำคิด เป็นความคิดที่เข้ามาในสมองโดยไม่ตั้งใจ และทำให้เกิดความกลัว หรือความกังวล เป็นการกระทำ เพื่อลดความกลัว หรือความกังวลที่เกิดจากอาการย้ำคิด นอกจากนั้นอาการย้ำคิดย้ำทำบางครั้งเกิดขึ้นได้ในคนปกติ

    สาเหตุโรคย้ำคิดย้ำทำ
อาการย้ำคิดจะมีลักษณะคิดซ้ำๆ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ความคิดอาจแปลก เช่น คิดจะทำร้ายคนอื่นโดยที่ตนเองก็ไม่อยากจะทำเช่นนั้น อยากจะตัดความคิดออกไป ไม่อยากคิดซ้ำๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ความคิดสามารถเกิดขึ้นเองโดยไม่สามารถหยุดได้ ถ้าเป็นมากๆ กลัวว่าจะทำไปอย่างที่คิดจริงๆ ส่วนการย้ำทำจะมีลักษณะพฤติกรรมทำอะไรซ้ำๆ เช่น เปิดปิด เดินหน้า ถอยหลัง ตรวจสอบการเปิดปิดไฟฟ้า-เตาแก๊ส หรือล้างมือ การกระทำมักจะเกิดจากความวิตกกังวลภายใน

ล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีก     สาเหตุของอาการย้ำคิดย้ำทำมีรากฐานสำคัญมาจากความกลัว โดยเรื่องที่ผู้ป่วยมักจะกลัวมีอยู่ 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ กลัวความโชคร้ายกับกลัวความสกปรก ผู้ที่กลัวโชคร้าย เช่น ยกมือไหว้วัดหรือศาลทุกชนิดที่พบเห็น กลัวขโมยจะขึ้นบ้าน ทำให้ต้องคอยตรวจตราประตูหน้าต่างทั่วบ้านซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายๆ รอบจึงจะเข้านอนได้ ผู้ที่กลัวสกปรก เช่น ล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะยังรู้สึกไม่สะอาด อาบน้ำนานมากเพราะกลัวว่าจะล้างออกไม่หมด

   

    อาการโรคย้ำคิดย้ำทำ
ผู้ที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำจะมีอาการจดจ่อผูกพันอยู่กับการย้ำคิดย้ำทำมากมายตลอดเวลาเกินขอบเขตที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความรู้สึกผิด และกลัวการลงโทษ อย่างในกรณี แม่บ้านคนหนึ่งกลัวเชื้อโรคที่เกิจากฝุ่นมากจรไม่กล้ากวาดบ้าน ปล่อยให้เฝุ่นเกาะพื้น และขังลูกให้อยู่แต่ในคอกวัวทั้งวันไม่ยอมให้คลานนไปทั่วบ้านหรือตามทางเดินซึ่งบ่อยครั้งที่พบว่าผู้ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำมักจะดึงบุคคลในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง 

   การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ
การรักษาโรคประสาทย้ำคิดย้ำทำมีอยู่หลายวิธีคือ มีทั้งการใช้ยาเพื่อรักษาตามอาการหรือการใช้พฤติกรรมบำบัดเพื่อทำการรักษาเป็นกลุ่ม ตามโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ผู้ป่วยเกิดความคุ้นเคย และคอยกำจัดพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำอย่างเป็นระบบตัวต่อตัว ทั้งนี้คนในครอบครัวจำเป็นต้องเข้ามาร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการรักษาปัญหาย้ำคิดย้ำทำ การเผชิญจริงๆ โดยมีคนทำให้ดูก่อน โดยผู้รักษาต้องทำให้ดูก่อนโดยละเอียดแล้วให้ผู้ป่วยทำตาม

    ก็พอเป็นแนวทางที่พอจะทำให้เราพอจะพิจารณาได้นะค่ะ หากเพื่อนๆพบเห็นใครที่มีอาการแบบนี้ ก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไรมากมายหรอกค่ะ ก้ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากค่ะ เพียงแต่ว่าโรคนี้ มันจะทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรสักทีค่ะ ก็ยังรักษาได้อยู่ เพียงแต่ต้องเข้าใจ และพยายามช่วยในเรื่องการปรับตัว เพียงเท่านี้ เพื่อนเราก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำได้แล้วค่ะ สำหรับวันนี้พี่ปุ้ยก็ขอลาไปก่อนค่ะ ขอไปซอยผมให้ลูกค้าก่อนค่ะ บ๊ายบาย ไปก่อนหล่ะค่ะ ^_^

24 ความคิดเห็น:

BoDDeR said...

ตอนนี้ผมเป็นโรคนี้อยู่ครับ ผมคิดว่า มันรุนแรงนะ ผมแทบจะทรมานทุกวัน ไม่เคยมีความสุข ผมจะไปพบจิตแพทย์ ทางบ้านก็ด่าผมหาว่า "เพ้อเจ้อ ไปนั้งสมาธิไปฟุ้งทรานแล้ว" ผมต้องทนไปนั้งสมาธิแต่ที่ไหนได้ พอผมกราบพระ สมองมันก็บ้า ไปคิดในสิ่งที่ไมอยากให้เกิดมากที่สุดในชีวิต ผมต้องกลับมานั้งสมาธิใหม่เป็น 10 ครั้ง เพื่อพยายามบังคับให้คิดหรือแก้ในสิ่งที่ไม่อยากให้เกิด ผมทรมานมากๆ เหมือนตายอยู่บนกองไฟที่สุ่มบนหัว ฟังแล้วอาจดูตลก

"แต่ถ้าไม่เคยเป็น ก็คงไม่รู้หรอกว่า มันเป็นเช่นไร"

Anonymous said...

เราก็เป็นโรคนี้อยู่เหมือนกัน แล้วก็เห็นด้วยว่าคนที่ไม่เป็นจะไม่เข้าใจ มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก และแต่ละคนก็อาจจะเป็นไม่เหมือนกัน เราก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ไปหาหมอรักษามาตั้งนานแล้ว ก็ไม่หายซักที

อยากมีเพื่อนที่เป็นโรคนี้ไว้คุยเหมือนกัน จะได้มีคนเอาไว้คอยแชร์ความรู้สึก

Anonymous said...

เราก็เป็นโรคนี้เหมือนกัน อยากหายมากเลย เราชอบคิดเรื่องไม่ดีขึ่้นมาแล้วก็คิดไปเองว่าเราจะไปทำมันจริงๆ ทั้งๆที่เราไม่อยกทำเลย

Anonymous said...
This comment has been removed by the author.
Anonymous said...

มันทรมานจริง ๆ นะ เราเป็นอยู่ TT'

Unknown said...

เราก็เป็นโรคนี้นะ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน เรารู้ดีว่ามันทรมานอย่างไร เราขอให้ทุกคนเข้มแข็งนะ

Anonymous said...

หวัดดีครับ ผมเป็นโรคกลวเอดส์เป็นมา 3 ปีกว่าแล้ว ตรวจมา 30 กว่ารอบ พักหลังๆ นี่ไปงานฟูลมูนปาร์ตี้มีน้ำกระเด็นใส่ก็กลัวติด ใช้แปรงสีฟันผิดก็กลัวติด
เมื่อก่อนไม่เป็นขนาดนี้ ตอนนี้ตื่นมาก็ทรมานแล้วมันคิดไม่หยุด จนก่อนจะนอนก็ยังไม่หยุด ทุกๆวันเป็นแบบนี้จนบางทีอยากตาย ผมไม่มีทางอื่นนอกจากสู้ต่อไป ขอเป็นกำลังใจนะครับ

Pat said...

เป็นเหมือนกันค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่ลงจากรถแล้วจะกดรีโมทล๊อกรถเอง จากนั้นก็เดินไปได้ 5 - 10เมตร แล้วก็ต้องเดินกลับมาดูอีกทีว่าเมื่อกี้ล๊อกรถแล้วรึยัง และเพื่อความสบายใจก็จะกดรีโมทกดล๊อกรถอีกรอบ เป็นทุกครั้ง ทุกวันเลยค่ะ

Anonymous said...

ให้กำลังใจทุกคนที่เป็นโรคนี้นะคะ เราเข้าใจความรู้สึกอย่างดีเลย
ของเราเป็นเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ ปิดเปิดซิม สองสามรอบแล้ว
ไม่อยากจะทำเลย อายศูนย์โทรศัพท์ แต่ว่าพอปิดแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ
อยากหายจากโรคนี้มากๆคะ :(

Anonymous said...

มีคนในครอบครัว และคนรุ้จักเป็นค่ะทรมานมาก เพราะเค้าทำร้ายคนอื่นและไม่ยอมรับอะไรเลยทั้งสิ้น ไม่หาหมอ ไม่เอายา ไม่เอาศาสนา ก็ไม่รุ็จะช่วยยังไง จนหลายครั้งที่แย่ไปด้วย เพราะทนมา10กว่าปีแล้ว แต่พอเข้าหาธรรมะก็รุ้เลยว่าถ้าเราเข้าถึงธรรมะได้โดยการฝึกสติอย่างถูกวิธีเราจะหายได้อย่างแน่นอนแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะทำเพื่อตัวเองและคนรอบข้างแค่ไหน เราต้องระลึกว่ามีอะไรก็ไม่ดีเท่ากับการมีสติ

Anonymous said...

เราก็เป็นค่ะ ทรมานมาก ประมาณคุณ BoDDeR เลย แต่หลายอย่างมาก เป็นโรคกลัวความโชคร้าย กลัวว่าสิ่งที่เราคิด มันจะเกิดขึ้นจริง โอ้ย ยิ่งคิดยิ่งทรมาน อยากลองไปหาหมอ เผื่อจะหาย เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

Anonymous said...

ผมก็เป็นครับ แต่จะเป็นเกี่ยวกับประตู ก๊อกน้ำ กุญแจ พวกแบบนี้อ่ะครับ ทรมานมาก พยายามไม่คิดแล้วแต่ก็ต้องกลับมาดู ไม่รู้ทำไมครับ และอีกเรื่อง ทำไมผมต้องคิดเรื่องอกุศลตอนไปวัดด้วยน๊า เห็นเป็นกันหลายคนเลย ไม่รู้เพราะไร งง มากเลย ตอนแรกนึกว่าตนเองเป็นโรคจิต แต่ตอนนี้พยายามรักษาด้วยการ มีสติ ครับ ช่วยได้ครับ 2 อย่างครับ มีสติ และ มั่นใจในตนเอง ว่าเราทำไปแล้ว สู้ๆครับทุกคนที่เป็นโรคนี้

Anonymous said...

ตอนนี้เราเป็นอยยากบอกว่าทรมานสุดๆเลย เหมือนกับใครไม่ได้ต้องการเพื่อปรึกษาน่ะ ติดต่ิเราได้ rudthawan@hotmail.com

Anonymous said...

เป็นเหมือนกันค่ะ อยากมีเพื่อนคุยกับคนที่เป็นโรคนี้นะค่ะ 0871110237 เบ็ญค่ะ
aumamp@hotmail.com ค่ะ

Anonymous said...

เป็นเหมือนกันครับ ไม่รู้จะแก้ยังไง ไม่อยากรับประทานยา
อาการจะประมาณว่า เขียนข้อความเดิมซ้ำๆ หลายๆรอบ
บางทีเขียนเป็นหน้า บางที่ก็คิดจะทร้ายคนอื่น แต่จริงๆ ไม่อยากทำ
อย่างที่บทความเขียนไว้ ยังไง เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สู้ๆ
เรามาเดินออกจากปัญหาไปพร้อมๆ กันเถอะนะครับ

Anonymous said...

อยากคุยกับทุกคนที่มาโพสนะคะ เราก็เป็นมานานแล้วคะ ตอนแรกมันเป็นไม่หนัก แต่พอหลังๆมา เมื่อเจอกันอะไรที่มันผิดหวัง ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง มีความกลัว ความกังวล และความระแวงคะ มันทรมานมากจริงๆคะ และมันก็ทำให้คนที่เรารัก เช่นคนในครอบครัวต้องลำบากและไม่มีความสุขไปด้วย beliefys@hotmail.com อยากให้มีคนมาช่วยให้คำปรึกษาหรือหาทางออกดีๆ ไม่อยากเป็นโรคนี้เลยคะ มันทรมานบางทีไม่ได้ทำอะไรเลยคะ

Anonymous said...

ตอนที่อาการเยอะๆหรือฟุ้งซ่านมากๆ จู่ๆถ้าไปนั่งสมาธิแล้วใจให้ดีขึ้นมันเป็นไปได้ยากมากครับ เหมือนคุณอยากเป็นนักยกน้ำหนัก แต่วันแรกๆคุณจะยกที่เดียว 130 กิโลกรัมคงไม่ได้ ถ้าไม่เคยยกมาก่อน แต่ถ้าคุณค่อยๆเริ่มยกจาก 30 กิโล 50 กิโล 80 กิโล เรื่อยๆ คุณก็จะแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆครับ ถ้าใจฟุ้งซ่านมาก แนะนำว่าถึงจะไปวัด ริมทะเล สวนสาธารณะ แล้วเดินไปเรื่อยๆระยะไม่เกิน 10 เมตร เดินไปกลับ จะเดินคุยกับเพื่อน ฟังเพลงหรือฟังธรรมมะก็ได้ ใจจะเริ่มสงบขึ้นได้ แต่อีกอันที่ต้องไม่ลืมคือเวลาหันกลับ ถ้ากลับตัวถ้ากลับทางขวาให้กลับทางขวาตลอด ถ้าซ้ายให้ซ้ายตลอด พยายามรักษาความเร็วให้คงที่ อย่าหยุด ไม่ต้องบริกรรม อะไรเลยนะครับ ขั้นต้นทำอย่างนี้ไปก่อน ใจก็จะค่อยน้อมเข้าหาสมาธิ ละจากความฟุ้งซ่านได้เรื่อยๆ ที่นี้อยากจะนั่งสมาธิ เดินจงกลม ฯ ก็ตามสบายได้เลย

Anonymous said...

ผมก็เป็นผมรู้ว่ามันทรมานมาก และคนใกล้ชิดก็ไม่เข้าใจ แต่ถ้าใครเป็นอย่าคิดฆ่าตัวตายนะครับ ผมเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก ผมก็พยายามอยู่ บางครั้งผมก็คิดว่ามันอาจเป็นกรรมเก่าของเรา เราต้องฝึกไม่ให้กลัวความคิดที่เราห้ามไม่ได้มันไม่ใช่ จิตรใจ จริงของเรา มันคิดอะไรก็ปล่อยมันไป อย่ากลัวเพราะมันไม่ใช่ความคิดที่แท้จริงของเรา และเราต้องสู้ต่อไป

kk said...

ผมก็เป็นเหมือนกัน ทรมานมากกก

Anonymous said...

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน คงมีมนุษย์อีกหลายคนบนโลกใบนี้ที่เป็นโรคนี้ เพียงแค่จะในเรื่องใด และแบบไหนเท่านั้นเองครับ

การทำงานออกแรง หรือการออกกำลังกายจะช่วยได้ครับ เพราะอาการฟุ้งซ่านเหล่านี้ เกิดจากการที่อยู่กับความคิดมากเกินไปส่วนหนึ่งนะครับ เมื่อเราปลดปล่อยพลังงานไปทางฐานกาย ความหมกหมุ่นในความคิดก็จะลดลงครับ

Anonymous said...

ส่วนท่านที่ว่าไปวัดแล้วมีปัญหา นึกในสิ่งที่ไม่อยากคิด สิ่งที่ไม่สมควร ไม่ควรไปต่อต้านมันในทันที ควรพิจารณา ว่าความนึกคิดทั้งหลายทั้งปวง ก็หาใช่ตัวตนของเราหรือไม่ เราไม่ควรไปบังคับในทันที เพระายิ่งบังคับมันยิ่งจะผุดขึ้นมา เรามีหน้าที่เพียงแค่ระลึกสติขึ้นมา และเพียงกราบขอขมาพระอยู่เรื่อยไป และลองสำรวจดูลงไปว่า ที่เรากลัวความคิดเหล่านั้นเพราะอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปในทางที่ กลัวจะโชคร้าย กลัวจะต้องรับโทษ กลัวจะต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ไ่ม่ต้องการ พอรู้เหตุได้ ความกลัวก็จะระงับลงไปครับ ฉะนั้นไม่ควรไปกระวนกระวายมาก ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกรัดครับ

Anonymous said...

ส่วนตัวเป็นมาหลายปีแล้ว ชอบคิดสิ่งที่ไม่ดี ทั้งที่จริงๆเป็นคนขี้สงสารมาก ช่วงที่เป็นตอนแรก มีเพื่อนแนะนำให้ไปนั่งสมาธิ ตอนนั้นไป 6 วัน ทรมานมากกกก เหมือนเราพยายามกดอาการไว้ทำให้เกิดความเครียด และ เป็นหนักกว่าเดิม หลังจากออกจากการปฏิบัติธรรม รีบเข้าพบแพทย์ทันที ได้ยาคลายเครียด / ยารักษา / ยานอนหลับ อาการดีขึ้น แต่ไม่หายขาด แต่พยายามอยู่กับมันให้ได้ เป็นบททดสอบที่ท้าทายมากของชีวิต ใช้ยามาประมาณ 1 ปีกว่า ปัจจุบันหยุดใช้ยามาได้ประมาณ 2ปีแล้ว แต่อาการจะเกิดเป็นพักๆ ขึ้นอยู่กับความเครียด ตอนนี้คิดอยากหาที่ออกกำลังกายที่ได้ใช้กำลังจริงๆ คิดว่า ต่อยมวยน่าจะช่วยได้ อยากเป็นกำลังใจให้คนที่เป็นอยู่ หากิจกรรมที่ตนเองสนใจหรือชอบทำกันดีกว่า อย่าอยู่คนเดียว พยายามฝืนยิ้ม ทำตัวให้ร่าเริงเข้าไว้นะคะ เราเป็นคนดี ทำดีเยอะๆ ความคิดร้ายๆทำอะไรเราไม่ได้หรอกค่ะ สู้ๆนะคะ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวค่ะ

Anonymous said...

มีคนบอกว่าผมเป็น เลยมาค้นเน็ทดูหาข้อมูล และได้เจอที่นี่

และเกิดไอเดียดีๆ เกี่ยวกับการทำสมาธิที่อยากแนะนำท่านที่มีปัญหาเรื่องนี้ คือ หาอะไรทำก็ได้ที่มันต้องเพ่งและใช้สมาธิ เช่น เล่นวีดีโอเกมที่มันยากๆ หรือใช้สมาธิหน่อย เช่นพวกเกมขับรถหรือขับอะไรเร็วๆ ถ้าไม่ชอบก็ไปทำแนวอื่นๆ เช่นพวกงานฝีมือต่างๆ พวกถักผ้าพันคอ ปักคอสติส เกมขุดดินหาฟอสซิลไดโนเสาร์ที่เป็นของเล่นเด็กวัยกลางๆ ขายตามศูนย์ของเล่นเด็กในห้างก็ดีเหมือนกัน หัดเดาะตระก้อหรือฟุตบอลไม่ให้ตกพื้น ตีปิงปอง..

ยกตัวอย่างจากเกมตามลิ้งค์ข้างล่าง
http://multitaskgames.com/multitask-game.html
ถ้าคุณเล่นแล้วชอบ คุณก็คงจะพยายามเล่นไปซักพัก และระหว่างที่คุณเล่นไปนานๆ ผมเชื่อว่าเรื่องแย่ๆ มันมักจะไม่โผล่เข้ามาในหัวคุณได้เท่าไหร่แน่นอน เพราะคุณเอาสติที่มีส่วนใหญ่ทั้งหมดของคุณไปไว้กับเกมที่ผมให้คุณเล่น มันก็จะไม่มีที่ว่างให้กับคุณจะมาคิดเรื่องที่ไม่พึงประสงค์ แต่ถ้าคุณไม่ชอบ คุณก็อาจจะทิ้งการเล่นเกมนี้ไปในเวลาอันไม่นาน ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทำสมาธิได้ มันก็แค่คุณไม่ได้ชอบอะไรแนวนี้ และโรคที่ว่านั้นมันก็ทำให้คุณไม่มีสมาธิได้ง่ายๆเท่าไรนัก ทีนี้คุณก็ต้องเริ่มหาอะไรที่มันใช้สมาธิ แล้วคุณก็ชอบด้วย ดีกว่าพยามทำอะไรที่คุณไม่ชอบ ผมว่ามันจะทำให้ทรมานและให้ผลลัพธ์ยากบวกกับกินเวลานานเกินไปกว่าจะเห็นผลซะมากกว่า แล้วมันก็มีอีกหลายกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิให้เลือกมากมาย เพียงแต่คุณต้องเลือกในสิ่งที่คุณชอบทำ จะได้ไม่ต้องทรมานมากนัก

ทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวนะครับ ผมไม่ใช่หมอและประกอบอาชีพไม่ได้ใกล้เคียงด้วย ท่านใดเห็นข้อความของผมไม่ถูกต้องหรือไม่ควร กรุณาช่วยแย้งแก้ไขเพื่อประโยชน์ของหลายๆ ท่านด้วยนะครับ

คิตตี้

Anonymous said...

ผมเป็นคนหนึ่ง ที่เป็นโรคนี้นะครับ ลองอ่านธรรมะ ศึกษาดูนะครับ บางส่วนอาจเป็นที่กิเลสของเราก็ได้ ผมกำลังพยายามสู้อยู่ครับ เพื่อนๆคิดว่าไง ผมเคยรักษาด้วยยาแล้วพักนึง แล้วได้ไปปรึกษาหมอท่านนึง ท่านบอกว่าผมไม่ได้เป็น OCD หรอก ผมก็ไม่มั่นใจอากาศก็มี แต่ผมจะหยุดมันได้ คือสู้ได้บ้างอะครับ แต่มีความรู้สึกเป็นทุกข์อยู่บาง ถ้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้ก็ไลน์มานะครับ 0910567053 เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

Post a Comment

Subscribe