Hair Stylist & Make up Artist

ร้านเสริมสวย ARTISTAYA สุขุมวิท 105 (ลาซาล)

ร้านนี้ถูกใจ ใช่เลย

CANDIDA ALBICANS      ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน หาโอกาสตากผ้ายากมาก ทำให้ต้องตากผ้าในที่ร่ม หลายๆคนที่เคยซักผ้าแล้วพอถึงเวลาเอาผ้าไปตาก ฝนดันมาตกช่วงนั้นหล่ะก็ เพื่อนๆจะทำยังงัยค่ะ อย่าบอกนะว่า เอาผ้ามาตากในที่ร่มแล้วเอาพัดลมมาเป่าๆ หรือว่าตากไว้ในห้องน้ำ วันนี้มีเรื่องมาเตือนเพื่อนๆค่ะ ว่าการตากผ้าในที่ร่มส่งผลเสีย มากกว่าผลดี

     โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงเรานี้ เวลาอยู่ในวัยที่มีประจำเดือนจะสังเกตได้ว่าจะมีคราบขาวติดอยู่ที่กางเกงชั้นใน จะมากน้อยแค่ไหนหรือมีลักษณะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็เป็นตามช่วงระยะของการมีประจำเดือน เนื่องจากช่องคลอดของผู้หญิงจะมีการทำความสะอาดตัวเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงถือว่าเป็นกระบวนการทำความสะอาดตัวเองตามปกติ

     แต่หากเมื่อไหร่ที่ตกขาวมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีสี มีกลิ่นผิดไปจากปกติ แล้วยิ่งถ้ามีอาการคันๆตรงน้องหนูอยู่ด้วย ก็สันนิษฐานได้เลยว่าคุณอาจโดนเจ้าเชื้อราเล่นงานเข้าแล้วก็ได้

    เจ้าเชื้อแคนดิด้า แอลบิคันส์ (CANDIDA ALBICANS) จริงๆมันอาศัยอยู่ในร้างกายคนเราและชอบอาศัยอยู่ในช่องคลอดคุณผู้หญิง นั่นก็เพราะว่าเป็นที่ชื้นแฉะ และไม่มีภาวะความเป็นกรด เหมาะแก่การเจริญเติบโต ของเชื้อราเป็นที่สุด

     ทั้งสาวน้อย และสาวไม่น้อยก็เป็นได้ทั้งนั้นและที่สำคัญยังสามารถติดต่อกันได้จากการมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย น้องๆสามารถสังเกตอากการเหล่านี้ได้ด้วยตนเองจาก อากการเริ่มแรกจะรู้สึกคันๆ บริเวณช่องคลอด หรือปากช่องคลอด ตกขาวมีสีและมีกลิ่นผิดปกติ สีขุ่นจับเป็นก้อน อวัยวะเพศภายนอกบวมแดง และรู้สึกเจ็บ และทรมานมากเมื่อร่วมเพศ

ป้องกันได้ด้วยตัวคุณเอง

  • ควรตากกางเกงชั้นใน ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และต้องให้โดนแสงด้วย เพราะเชื้อราพวกนี้จะตายด้วยความร้อน
  • เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีควรสวมใส่กางเกงชั้นในที่ทำด้วยผ้าฝ้าย ที่จะช่วยระบายความอับชื้นได้ดีกว่ากางเกงชั้นในที่เป็นใยสังเคราะห์
  • ไม่ควรใช้สบู่ หรือน้ำยาใดๆ ล้างช่องคลอด เพราะนั่นคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะความเป็นกรดของช่องคลอดลดลง ควรทำความสะอาดด้วยสบู่ธรรมดา และไม่ควรล้างภายในช่องคลอด
  • ก่อนและหลังการร่วมเพศให้ปัสสาวะออกให้หมดกระเพาะ
  • หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงยีนส์คับๆ ซึ่งทำให้การระบายอากาศไม่ดี เกิดการอับชื้น
  • สำหรับคนที่เริ่มอาการของโรคช่องคลอดติดเชื้อรา ควรเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด หรือควรต้มน้ำเดือด10-15 นาที แล้วตากให้แห้งก่อนนำมาใช้งาน
  • ถ้าเริ่มรู้สึกคันๆ ผิดปกติ ให้รับประทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยวให้มากๆ เข้าไว้ “แลคโตบาซิลัส” ช่วยคุณได้
  • ควรรับประทานผักผลไม้ วิตามินจะช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันโรค จะพบได้มากในพวกข้าวสาลี ขนมปัง ถั่ว ไข่ นม ผักใบเขียว ข้าวโอ๊ต เนื้อ และปลา
  • หากมีอาการติดเชื้อแล้ว ควรงดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้ง และขนมปังขาว และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล รวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วย

รู้ไว้ก่อนจะสาย

  • การใช้ยาลดกรด ยาแก้กระเพาะอาหารอักเสบ และการใช้ยาสเตรียรอยด์ นอกจากจะทำลายเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นแล้ว ยังทำลายเชื้อ lactobacilli ในช่องคลอดลดลง เกิดภาวะความเป็นกรดลดลง ก็จะทำให้เชื้อราเติบโตได้เร็วขึ้น
  • ช่วงก่อนมีประจำเดือนเป็นช่วงที่มีแนวโน้วในการติดเชื้อราสูง เพราะมีภาวะความเป็นกรดต่ำ
  • การร่วมเพศถ้ามีน้ำหล่อลื่นน้อยก็เกิดการติดเชื้อราได้ และน้ำอสุจิจากฝ่ายชายก็มีลักษณะเป็นด่างย่อมทำให้เกิดภาวะติดชื้อราได้ง่ายเช่นกัน
  • ในผู้ที่เป็นเบาหวาน สามารถติดเชื้อได้มากที่สุด เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดและปัสสาวะสูง ส่งผลทำให้มีน้ำตาลใรสารหล่อลื่นช่องคลอดมากขึ้นด้วย

     เห็นไหมหล่ะค่ะ ว่าเจ้ากางเกงในชิ้นเล็กๆที่คุณมองข้ามเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราศัตรูตัวร้ายได้เป็นอย่างดี คุกคามคุณได้อย่างไม่คาดคิด อย่ามัวแต่อายและอย่าซื้อยามาใช้เอง เพราะหากชะล่าใจปล่อยทิ้งไว้อาการอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นเชื้อราในมดลูกได้นะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

 

คลิป VDO การตรวจภายใน

จากครั้งที่เราเราได้ดูคลิป VDO การตรวจภายในไปแล้ว แต่เป็นวิธีของฝรั่งเค้าอาจจะฟังแล้วไม่เข้าใจ วันนนี้จะมาแนะนำการตรวจภายในเบื้องต้นด้วยตัวเอง ถ้าหากใครอายจริงๆที่จะไปพบแพทย์หล่ะก็ วันนี้ลองมาสำรวจของลับของตัวเองกันดูนะคะ เป็นการสำรวจความผิดปกติภายในของลับของตัวเอง

ภาพช่องคลอด

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ของเราเอง ดูเองไม่เกรงใจกันเลยคะ

  1. ต้องล้างมือให้สะอาดก่อนเริ่มตรวจ หลังจากนั้นก็จัดท่าของตัวเองที่คิดว่าจะสบายจะนั่งหรือนอนยังงัยก็ตามสะดวก แต่ต้องเห็นอวัยวะเพศของตัวเองได้ดีที่สุดด้วยนะคะ ไม่งั้นได้ชะเง้อชะแง้เมื่อยคอกันไปปล่าวๆ
  2. หากระจกมา 1 แผ่น สำหรับไว้ส่องดู หากสามารถที่จะขยายภาพให้ขยายได้ยิ่งดี
  3. เมื่อนั่งหรือนอนในท่าที่คุณรุ้สึกสบายที่สุดแล้ว แล้วเห็นอวัยวะเพศได้อย่างชัดเจนแล้ว ให้ใช้มือข้างที่ถนัดแยกแคมใหญ่ทั้งสองออกจากกัน แล้วลองคลำดูว้ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่นมีก้อน มีตุ่มแข็ง ตุ่มน้ำ มีแผล รอยบวม มีบริเวณไหนบ้างไหม ที่สีเปลี่ยนไป เช่น แดงมาก ค้ำมากไป
  4. จากนั้นก็ใช้นิ้วแยกแคมเล็กออกจากกัน แล้วตรวจหาดูความผิดปกติต่างๆ แล้วก็ตรวจดูที่บริเวณรูเปิดของท่อปัสสาวะ ว่ามีลักษณะบวมแดงหรือไม่ หลังจากนั้นก็ดูบริเวณคลิตอริส ใช้มือดึงรั้งผิวหนังที่คลุมบริเวณคริตอริสขึ้นไป ตรวจดูว่าคลิตอริสมีแผลหรือสีเปลี่ยนหรือไม่
  5. ต่อมาก็ใช้นิ้วมือสองนิ้วสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด ไม่ต้องลึกมากนะคะ แล้วกดแยกหนังช่องคลอดออกจากกัน วิธีนี้คุณอาจจะเห็นตกขาวในช่องคลอด ให้ดูว่าลักษณะและสีของตกขาวเป็นอย่างไร ลักษณะที่ปกติของตกขาวจะสีขุ่นๆ แต่ถ้ามีลัษณะอื่นๆ เช่น เป็นฟอง หรือมีลักษณะคล้ายๆ คราบนมที่เด็กแหวะออกมา และยิ่งถ้ามีอาการคันร่วมด้วย อย่างนี้ผิดปกติแล้วนะค่ะ อาจมีการติดเชื้อขึ้นแล้วในช่องคลอด ต้องรีบไปหาหมอแล้วหล่ะค่ะ
  6. ใช้นิ้วมือคลำบริเวณส่วนล่างของแคมใหญ่ทั้งสอง โดยใช้นิ้วหนึ่งอยู่ในช่องคลอด และอีกนิ้วหนึ่งอยู่ส่วนล่างของแคมใหญ่ คลำดูว่ามีก้อนคล้ายถุงน้ำบริเวณนั้นหรือไม่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่อยู่ของต่อมที่สร้างมูกออกมา ช่วยลห่อลื่นช่องคลอดที่เรียกว่า ต่อมบาร์โธลิน ซึ่งต่อมนี้มีปัญหาว่าที่ท่อปล่อยมูกออกมาตันได้บ่อย ทำให้กลายเป็นก้อนนิ่มๆ คล้ายถุงน้ำหากทิ้งไว้อาจมีการอักเสบกลายเป็นถุงหนองได้ ถึงคราวนี้แหละ ทั้งเจ็บทั้งอายเลยหล่ะค่ะ
  7. สุดท้ายตรวจดูบริเวณฝีเย็บและรูก้น ว่ามีก้อนหรือเจ็บบริเวณฝีเย็บหรือไม่ ที่รูก้นมีแผลหรือก้อนเนื้อที่เรียกว่าริดสีดวงทวารหรือเปล่า ถ้าพบว่ามี ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ อย่ามัวแต่อายอยู่เลย ถ้าปล่อยให้อากการหนักมากไปกว่านี้ เวลาถ่ายอุจารระที เจ็บปวดแทบขาดใจเลยนะค่ะ

ตรวจภายในด้วยตัวเอง ไม่ยากใช่ไหมค่ะ แต่ถ้าตรวจพบความผิดปกติก็ต้องไปหาหมอนะคะ อายต่อไปไม่ดีแน่ๆ ค่ะ

การตรวจภายใน      ถ้าพูดถึงเรื่องตรวจภายใน ไม่ว่าสาวๆคนไหน เป็นอันต้องร้องเสียงหลงแน่ๆ บางคนก็ไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึง การตรวจภายในไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างที่คิด หากมัวแต่เหนียมอายคงไม่ดีแน่ๆ เพราะอย่างน้อยๆ ผู้หยฺงอย่างเราควรที่จะไปตรวภายในเป็นระยะ นะคะ มันเป็นวิธีการเดียวที่จะบอกคุณได้ว่าสุขภาพของคุณยังสบายดีและแข็งแรงอยู่ ฉะนั้น อย่าให้เสียเวลาอีกเลย มาเข้าใจถึงเรื่องการตรวจภายใน กันเถอะค่ะ ว่าเค้าตรวจภายในกันไปทำไม

     ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงที่มาตรวจภายใน จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แพทย์ก็จะแนะนำให้มาตรวจเป็นประจำทุกๆปี กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เช่น คนในครอบครัว มีประวัติการเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือคนที่แพทย์ตรวจพบความผิดปกติ ที่อาจลุกลามได้  สำหรับมะเร็งปากมดลูกแพทย์สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นเพียงแค่เซลล์ จึงเป็นการง่ายต่อการรรักษาให้หายขาดได้ หลายคนมาพบแพทย์เมื่อเริ่มมีอาการแล้ว นั่นก็เป็นเพราะสาเหตุ "อายหมอ" เพื่อเป็นการป้องกันและปลอดภัยไว้ก่อน ขอแนะนำให้ไปตรวจซะนะค่ะ อย่ามัวแต่อาย เดี๋ยวศพไม่สวยไม่รู้ด้วยนะ

หลายคนอาจจะถามว่า แล้วเมื่อไหร่ควรจะไปตรวจหล่ะ แพทย์แนะนำว่า

  • ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 35 ปี หรือก่อนหน้านั้น หากพบว่ามีอาการผิดปกติ
  • ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ควรไปพบแพทย์ตรวจภายในปีละครั้ง เพื่อดูขนาดและรูปร่างมดลูก ดูผลการตรวจมะเร็งปากมดลูก
  • ผู้หญิงที่ตัดมดลูก และรังไข่ออกไปแล้ว
  • ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

อาการผิดปกติที่ควรไปตรวจภายใน

  1. มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ เช่น ออกมามาก ออกกระปริดกระปรอย ออกนาน หรือช่วงรอบเดือนสั้นกว่าปกติ
  2. พบความผิดปกติของตกขาว เช่นมีสีที่ผิดปกติ สีขาวขุ่นข้น สีน้ำตาลเข้ม สีหนองเหมือนเป็นหนอง สีเขียวปนเหลืองเป็นฟอง มีกลิ่นแรง
  3. มีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด
  4. ประจำเดือนขาดหายไป หรือเป็นแล้วขาดหายไป โดยไม่มีอาการของการตั้งครรภ์
  5. มีอาการปวดท้องน้อย อย่างรุนแรงขณะมีประจำเดือน และมีอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
  6. คลำพบก้อนในช่องท้อง หรือมีก้อนเนื้อยื่นจากปากช่องคลอด
  7. มีอาการเจ็บปวดมากขณะร่วมเพศ หรือมีเลือดออกหลังการร่วมเพศ

เตรียมตัวเตรียมใจ(ก่อน)ไปพบแพทย์

  1. เตรียมจัวเตรียมใจให้พร้อม ไม่มีอะไรน่ากลัวคิดซะว่าแค่ 10 นาทีเอง
  2. การตรวจที่ได้ผลที่แนะนอน ควรรอให้ประจำเดือนหมดไปแล้วสัก 2 - 3 วัน แต่ในกรณีที่มีเลือดไหลออกมามากผิดปกติก็ไม่ต้องรีบรอแล้วหล่ะคะ คุณหมอพร้อมช่วยเหลืออยู่แล้ว
  3. ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกได้ แต่ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดคืนก่อนวันตรวจ
  4. ไม่ต้องโกนขน เพราะจะทำให้หมอวินิจฉัย โรคทางพันธุกรรมบางอย่างไม่ได้ ต้องดูจากขนด้วย
  5. ก่อนการตรวจ ให้ถ่ายปัสสาวะก่อนให้กระเพาะปัสสาวะว่าง เพื่อความสะดวกในการคลำหน้าท้องหรือใครรู้ตัวว่าท้องผูกก็ควรรับประทานยาถ่ายมาก่อนสัก 2 - 3 วันก่อนก็ดี
  6. เพื่อการตรวจที่ได้ผลชัดเจน ควรงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 - 3 วันก่อนไปตรวจเพราะอาจทำให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนได้

    ถ้าเพื่อนๆยังอายๆอยู่หล่ะก็ สามารถบอกเจ้าหน้าที่ก่อนได้นะคะว่า ขอตรวจกับหมอผู้หญิง ยังงัยซะจะได้อายน้อยลง อิอิอิ
วันนี้ก็ขอจบไว้เท่านี้ก่อนหล่ะกัน ในตอนหน้า จะมาอธิบายวิธีการตรวจด้วยตัวเอง ว่าเราสามารถที่จะตรวจเบื้องต้นด้วยตัวเองได้อย่างไร และก็มีวิธีการดูแลตัวเอง ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง สุดท้ายได้ไปค้นหาวีดีโอในยูทูป ว่ามีภาพเกี่ยวกับการตรวจภายในไหม ก้ได้ไปเจอมาค่ะ แต่เป็นของฝรั่ง แต่ก็พอดูเป็นแนวได้ ว่าการตรวจภายใน หมอเค้าตรวจอะไรบ้าง 

 

ที่มาข้อมูล : เรื่องข้างล่าง ของผู้หญิง

โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive)

    สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้ฝนก็เริ่มกลับมาตกอีกแล้วค่ะ ตอนเย็นๆครึ้มมาเชียว รักษาสุขภาพกันหน่อยแล้วกัน ถ้าฝนตกไม่รู้จะออกไปไหน ก็มาท่องเนต มาเยี่ยมชมบล๊อกของพี่ปุ้ยก็ได้นะคะ พี่ปุ้ยจะพยายามหาข้อมูล สาระดีๆมาฝากเพื่อนๆ ก็อยากให้เพื่อนๆ สวยสดใส สุขภาพดีเสมอตลอดไปหล่ะค่ะ มีเพื่อน ก็ช่วยแนะนำส่งลิ้งค์ต่อๆกันไปนะค่ะ หรือว่าจะสมัครสมาชิกรับข่าวสาร ก็กรอกอีเมล์ลงไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเมล์ไปรบกวน เพียงแต่ว่าหากพี่ปุ้ยมีอัพเดทเรื่องสุขภาพความสวยความงาม เพื่อนๆจะได้ไม่พลาดอัพเดทข่าวสารหน่ะค่ะ

    วันนี้ ก็มีเรื่องเกี่ยวกับโรคทางจิต มาเล่าให้ฟังหน่ะคะ เพื่อนๆหลายคนอาจจะเคยเจอเพื่อนของเรามีอาการแบบนี้อยู่ก็ได้ค่ะ ลองสังเกตดูนะคะ ว่าเพื่อนอขงเรามีอาการย้ำคิดย้ำทำอยู่หรือเปล่า อาการย้ำคิดย้ำทำเป็นแบบไหน แบบไหนจึงจะเรียกว่าอาการย้ำคิดย้ำทำ วันนี้เรามารู้จักโรคนี้กันนะค่ะ

    โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive - Compulsive Disorder)
เป็นโรคที่พบบ่อย ซึ่งอาการย้ำคิด เป็นความคิดที่เข้ามาในสมองโดยไม่ตั้งใจ และทำให้เกิดความกลัว หรือความกังวล เป็นการกระทำ เพื่อลดความกลัว หรือความกังวลที่เกิดจากอาการย้ำคิด นอกจากนั้นอาการย้ำคิดย้ำทำบางครั้งเกิดขึ้นได้ในคนปกติ

    สาเหตุโรคย้ำคิดย้ำทำ
อาการย้ำคิดจะมีลักษณะคิดซ้ำๆ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ความคิดอาจแปลก เช่น คิดจะทำร้ายคนอื่นโดยที่ตนเองก็ไม่อยากจะทำเช่นนั้น อยากจะตัดความคิดออกไป ไม่อยากคิดซ้ำๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ความคิดสามารถเกิดขึ้นเองโดยไม่สามารถหยุดได้ ถ้าเป็นมากๆ กลัวว่าจะทำไปอย่างที่คิดจริงๆ ส่วนการย้ำทำจะมีลักษณะพฤติกรรมทำอะไรซ้ำๆ เช่น เปิดปิด เดินหน้า ถอยหลัง ตรวจสอบการเปิดปิดไฟฟ้า-เตาแก๊ส หรือล้างมือ การกระทำมักจะเกิดจากความวิตกกังวลภายใน

ล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีก     สาเหตุของอาการย้ำคิดย้ำทำมีรากฐานสำคัญมาจากความกลัว โดยเรื่องที่ผู้ป่วยมักจะกลัวมีอยู่ 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ กลัวความโชคร้ายกับกลัวความสกปรก ผู้ที่กลัวโชคร้าย เช่น ยกมือไหว้วัดหรือศาลทุกชนิดที่พบเห็น กลัวขโมยจะขึ้นบ้าน ทำให้ต้องคอยตรวจตราประตูหน้าต่างทั่วบ้านซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายๆ รอบจึงจะเข้านอนได้ ผู้ที่กลัวสกปรก เช่น ล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะยังรู้สึกไม่สะอาด อาบน้ำนานมากเพราะกลัวว่าจะล้างออกไม่หมด

   

    อาการโรคย้ำคิดย้ำทำ
ผู้ที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำจะมีอาการจดจ่อผูกพันอยู่กับการย้ำคิดย้ำทำมากมายตลอดเวลาเกินขอบเขตที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความรู้สึกผิด และกลัวการลงโทษ อย่างในกรณี แม่บ้านคนหนึ่งกลัวเชื้อโรคที่เกิจากฝุ่นมากจรไม่กล้ากวาดบ้าน ปล่อยให้เฝุ่นเกาะพื้น และขังลูกให้อยู่แต่ในคอกวัวทั้งวันไม่ยอมให้คลานนไปทั่วบ้านหรือตามทางเดินซึ่งบ่อยครั้งที่พบว่าผู้ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำมักจะดึงบุคคลในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง 

   การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ
การรักษาโรคประสาทย้ำคิดย้ำทำมีอยู่หลายวิธีคือ มีทั้งการใช้ยาเพื่อรักษาตามอาการหรือการใช้พฤติกรรมบำบัดเพื่อทำการรักษาเป็นกลุ่ม ตามโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ผู้ป่วยเกิดความคุ้นเคย และคอยกำจัดพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำอย่างเป็นระบบตัวต่อตัว ทั้งนี้คนในครอบครัวจำเป็นต้องเข้ามาร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการรักษาปัญหาย้ำคิดย้ำทำ การเผชิญจริงๆ โดยมีคนทำให้ดูก่อน โดยผู้รักษาต้องทำให้ดูก่อนโดยละเอียดแล้วให้ผู้ป่วยทำตาม

    ก็พอเป็นแนวทางที่พอจะทำให้เราพอจะพิจารณาได้นะค่ะ หากเพื่อนๆพบเห็นใครที่มีอาการแบบนี้ ก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไรมากมายหรอกค่ะ ก้ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากค่ะ เพียงแต่ว่าโรคนี้ มันจะทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรสักทีค่ะ ก็ยังรักษาได้อยู่ เพียงแต่ต้องเข้าใจ และพยายามช่วยในเรื่องการปรับตัว เพียงเท่านี้ เพื่อนเราก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำได้แล้วค่ะ สำหรับวันนี้พี่ปุ้ยก็ขอลาไปก่อนค่ะ ขอไปซอยผมให้ลูกค้าก่อนค่ะ บ๊ายบาย ไปก่อนหล่ะค่ะ ^_^

แอโรบิค ก็มาถึงสุดท้ายแล้วค่ะ กับเคล็ดลับดีๆ 40 ข้อ เพื่อนๆก็น่าจะสวยขึ้นมาบ้างแล้วนะค่ะ แนะนำไปตั้งหลายข้อแล้วนี่ค่ะ ตอนนี้ที่ร้านเริ่มมีการทุบทำถนนแล้วค่ะ เฮ้อ..รายได้ลดลงเยอะเลยค่ะ ไม่ดีเลยนะ ไม่รู้จะทุบไปทำไม T_T ยังงัยก็ช่วยทำเร็วๆหน่อยนะค่ะ คุณช่างขา น้องปุ้ยจะแย่อยู่แล้ว

    31. สำหรับสาวๆที่ชอบดัดผมด้วยตัวเอง หลังจากที่แกะโรลม้วนผมออกแล้ว ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงใช้หวีแต่งผมอีกครั้ง

    32. การแต่หน้าที่สำคัญอีกอย่างคือ การปัดบรัชออน ควรปัด 5 จุด คือ โหนกแก้มทั้งสองข้าง หน้าผาก คาง และปลายจมูก หรือพูดง่ายๆคือ จุดที่แสงแดดกระทบมากที่สุด

    33. สำหรับสาวขี้ร้อนไว้ผมยาวทั้งหลาย ควรรวบผมเป็นหางม้า แล้วถักเปีย จากนั้นม้วนขึ้นแล้วติดกิ๊ปสวยๆ เท่านี้ก็พอแล้ว

    34. ส่วนสาวผมหยิกไม่ต้องน้อยใจ เพราะผมของคุณสวยอยู่แล้ว แค่จัดเป็นทรงก็สวยได้ อย่าปล่อยให้ฟูฤองเหมือนยายเพอ้งก็แล้วกัน

    35. การเลือกรองเท้าก็เหมือนกัน ควรเลือกให้พอดีกับเท้า ไม่อย่างงั้นนอกจากจะเจ็บเท้าแล้ว อาจทำให้หน้าตาคุณบูดเบี้ยวตามไปด้วย ถ้าให้ดี ควรซื้อรองเท้าในตอนเย็น เพราะเท้าของคุณจะขยายเต็มที่

    36. สาวที่ไว้เล็บยาว ต้องหมั่นรักษาเล็บให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยโลชั่นต่างๆที่ช่วยถนอนเล็บ แต่ทางที่ดีควรตัดเล็บบ้าง เพื่อไม่ให้ยาวจนเกินไป

หุ่นหระชับ     37. วิธีการที่ทำให้หน้าของคุณดูดีทั้งวัน ก็คือ หมั่นตบแป้งซ้ำอยู่เรื่อยๆ อย่างช่วงเวลาพักงาน เพื่อเมคอัพของคุณจะได้อยู่คงทนถึงช่วงเย็น

    38. สำหรับสาวหุ่นเพรียวมาก (ผอมสุดๆ) ควรหาขนมมาคบเขี้ยวในเวลางานบ้าง จะได้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นค่ะ

    39. อันนี้สำคัญค่ะ เวลาซื้อของไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องสำอางลองอ่านดูสรรพคุณและวิธีการใช้ซะหน่อย เพื่อตัวคุณเอง

    40. เหน็ดเหนื่อยจากการเที่ยวเตร่ในยามค่ำคืนแล้ว กลับมาถึงบ้านใช้ผ้าขนหนู ชุบน้ำเย็นหรือห่อน้ำแข็งไว้ก็ได้ นำมาประคบดวงตาสักครู่หนึ่ง รับรองว่าคลายอาการเมื่อยล้าไปเยอะเชียว

   บอกไปตั้ง  40 วิธีแล้ว ถ้าไม่สวยหล่ะแย่เลย ถ้ายากนักก็ค่อยๆทำไปแล้วกัน ทำเสร็จเมื่อไหร่ รับรองคุณจะสวยไม่น้อยหน้าใครๆอย่างแน่นอนค๋ะ

   ก็จบสักที สำหรับ”เคล็ดลับ 40 วิธี เสริม..เติม..แต่ง..ให้ชีวิตสดใส”  ถ้าเพื่อนๆยังไม่ได้อ่านตอนใด สามารถย้อนกลับไปอ่านได้เลยค่ะ ตอนที่1 ตอนที่2 ตอนที่3

รักแร้ขาว ก็เดินทางมาถึงเคล็ดลับที่ 21-30 แล้วนะค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่ได้อ่านเคล็ดลับก่อนหน้านี้ ให้คลิ๊กเลยค่ะ ช่วงนี้ซอยลาซาลต้องทำถนนภายในซอยอีกแหละ แย่จังเลย ลูกค้าก็เงียบๆไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่ก็สู้ๆค่ะ เพื่อนๆ ว่างๆก็แวะมาเยี่ยมเยียนที่ร้านบ้างนะค่ะ  เรามาเริ่มกันต่อเลยค่ะ สำหรับเคล็ดลับที่ 21-30

    21. การทาลิปติกของคุณควรทาแบบบางๆ ไมใช่มันเยิ้มเหมือนเพิ่งหม่ำข้าวขาหมู เมื่อทาสีที่ต้องการแล้วลองใช้กระดาษทิชชู่ซับเบาๆ รับรองว่าสวยแน่นอน

    22. คุณที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรหาหนังสือที่เกี่ยวกับโภชนาการมาอ่าน หรือปรึกษาแพทย์ อย่าลดแบบมั่วซั่ว เพราะจะไม่ดีต่อสุขภาพ

    23. การทาครีมและโลชั่น ควรค่อยๆ ทาเพื่อให้เนื้อครีมซึมลงสู่ผิวอย่างเต็มที่ ไม่ใช่โป๊ะลงไปมากๆ ผิวก็เหมือนคุณนั่นแหละ ถ้ากินมากอาจทำให้สำลักได้ (จำไว้)

    24. สาวที่ใส่คอนแทคเลนส์ทั้งหลายฟังทางนี้ เดี๋ยวนี้เค้ามีมาสคาร่าที่ใช้สำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์แล้วนะ ลองหาซื้อมาใช้ซะ

    25. ส่วนคนที่ผมแตกปลายควรหมั่นเล็มปลายผมบ้าง อย่าให้แตกถึงโคนผม อาจเล็มเองโดยการบิดผมเป็นปอยๆ แล้วค่อยๆ เล็มส่วนที่แตกปลายออก ง่ายนิดเดียว

    26. มาลดหน้าท้องกันก่อนเป็นงัย เริ่มจากนอนราบลงบนพื้น ประสานมือไว้ที่ท้ายทอย ยกเข่าขึ้นเล็กน้อย เท้าราบกับพื้น เพื่อช่วยการทรงตัว จากนั้นยกศีรษะมาจรดเข่า พยายามโค้งตัวให้ได้มากที่สุด แล้วเอนลงในท่าเดิม ทำอย่างน้อย 50-60 ครั้ง ต่อวัน แล้วหน้าท้องของคุณจะแบนราบเรียบสมใจ

    27. การอดอาหารเช้าเป็นวิธีที่ผิดที่สุด เพราะจะทำให้ร่งกายของคุณอ่อนเพลียในช่วงเช้า แล้วอาจไปซัดข้าว 2 จานในช่วงเที่ยงก็ได้ บ่ายๆก็ง่วงนอน อ้วนแหงๆ

    28. คุณมีปัญหากับผมที่รีบแบนเกินไปหรือเปล่า ถ้าใช่ลองยกผมตวัดไปข้างหน้าแล้วฉีดสเปรย์ด้านในแต่งผมด้านในของผม แล้วจึงปล่อยผมปกติ ใช้แปรงหวีเบาๆ เท่านี้ผมของคุณ ก็ได้ทรงและดูไม่รีบแบนอีกด้วย

    29. สำหรับสาวที่รักการใส่สายเดี่ยว อย่าลืมโกนขนรักแร้นะ เพราะนอกจากจะดูไม่ดีแล้ว ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นได้อีกด้วย

    30. วิธีการแต่งคิ้วแบบง่ายๆ ควรเริ่มจากการใช้ดินสอเขียนคิ้ว กดแนบจมูกในแนวตั้ง เมื่อเห็นจุดที่ดินสอชี้แล้ว ก็เริ่มด้วยการเขียนจากจุดนั้นไปจนถึงปลายคิ้ว

ในตอนหน้าก็คงเป็นช่วงสุดท้ายของ “เคล็ดลับ 40 วิธี เสริม..เติม..แต่ง..ให้ชีวิตสดใส” แต่ไม่ท้ายสุดสำหรับเรื่องความสวยความงามนะค๋ะ ยังต้องหามาอัพเดทให้เพื่อนๆอย่างแน่นอนค่ะ ก็แหม เรามันผู้หญิงนี่ค่ะ วันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีค๋ะ

ปัดเปลือกตา วันนี้ เราก็มาว่ากันต่อกับ เคล็ดลับ 40 วิธี เสริม..เติม..แต่ง..ให้ชีวิตสดใส เป็นตอนที่สอง ต่อจากข้อที่ 10 ในบทความตอนที่แล้ว แต่ก่อนจะไปเรื่องนั้น ขออัพเดทหน่อยค่ะ ตอนนี้ที่ร้านมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ทำสีผมช่วงนี้ ลดทันที 10% เพียงแค่ท่านบอกว่า ท่านรู้จักร้านอาทิตยา จากบล๊อก Artist ‘s Hair หรือจาก hi5 ก็ได้ ท่านจะได้ส่วนลดทันที ที่ไปทำสีผมที่ร้าน อยากรู้ว่าร้านอยู่ที่ไหน ก็ลองหาดูในบล๊อกนี้นะคะ ไม่น่าจะยากเกินไปใช่ไหม

     11. ยางที่ดัดขนตาของคุณตอนนี้เยินหรือยังค่ะ ควรจะเปลี่ยนได้แล้วหาซื้อเฉพาะยางประหยัดดี

     12. สวยง่ายๆ ในบ้าน โดยการนำข้าวโอ๊ตผสมน้ำผึ้ง หรือนมสด พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เท่านี้หน้าของคุณก็จะดูชุ่มชื่นขึ้นแล้วค่ะ

     13. ผู้ที่ต้องการทำสีผมควรเลือกดูดีๆ เอาแบบที่แพงๆนิดนึง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจไปตลอดทั้งปี

     14. สำหรับสาวคิ้วบางก่อนออกจากบ้าน ควรปัดมาสคาร่าที่คิ้วเล็กน้อย เพื่อความสวยงาม

     15. รู้หรือเปล่าว่าเดี๋ยวนี้เค้ามีเครื่องอบเล็บกันแล้ว เพื่อให้สีแล็บแห้งเร็ว หลังจากที่ทาเสร็จ และสีติดทนด้วย

     16. สำหรับสาวผมสวย คุณควรใช้มูสในการแต่งผมเล็กน้อย เพื่อให้ผมดูมีน้ำหนัก แต่อย่าใส่มากเกินไป ลองบีบใส่มือซักประมาณเท่าลูกปิงปอง

     17. ลองเรียกความมั่นใจกลับคืนมา เพื่อให้ดูทันสมัยสมกับที่เป็นคุณ

     18. ลองเปลี่ยนท่ายืน อาจทำให้คุณเป็นคนที่มีบุคลิกดี โดยยืนตัวตรงคางเชิดเล็กน้อย ก้นไม่โด่งจนเกินงาม และอย่าแอ่นหน้าอกมากเกินไป เพราะคนอื่นเค้าอาจคิดว่าคุณเป็นนักกล้ามเอาได้

     19. คุณควรเริ่มหัดเขียนขอบตากันได้แล้ว เพราะมันจะทำให้ดวงตาของคุณดูกลมโต

     20. ลองสำรวจดูซิว่าดินสอต่างๆ เช่นดินสอเขียนคิ้ว ดินสอเขียนขอบตา หรือดินสอเขียนขอบปาก ของคุณเริ่มกุดหรือยัง ควรใช้กบเหลาดินสอบิดสักสองรอบ หรือลองนำดินสอเหล่านั้นไปแช่ช่องแข็ง รับรองว่าเหลาง่ายขึ้นค่ะ

ผ่านเคล็ดลับมา 20 ข้อแล้วนะคะ หวังว่าเพื่อนคงได้ลองนำไปใช้กันบ้างแล้ว แล้วติดตามตอนต่อไปค่ะ ยังไม่หมดนะคะ กับเคล็ดลับ 40 วิธี เสริม..เติม..แต่ง..ให้ชีวิตสดใส   วันนี้ลาไปก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ

สดใส

     ช่วงนี้ข่าวไข้หวัดใหญ่2009 ก็กำลังระบาดหนัก ในซอยลาซาลก็เงียบหน่อย ลูกค้าไม่ค่อยจะออกมาทำสีผมเท่าไหร่ คงจะกลัวๆก็เลยไม่ค่อยจะกล้าออกมาเท่าไหร่ จริงๆ ที่ร้านปุ้ยติดแอร์ฆ่าเชื้อ และก็ไม่ได้มีผู้คนพลุกผล่านเหมือนอย่างในห้างเท่าไหร่ ก็ขอให้ลูกค้าทุกคนวางใจได้ ร้านเราปลอดเชื้อไข้หวัดใหญ่อย่างแน่นอนค่ะ

    แต่ถึงจะอยู่ที่บ้าน เพื่อนๆก็ยังจะสวยได้ไม่ต้องกังวล วันนี้ พี่ปุ้ยมีเรื่องราวนำมาเล่าให้ฟังจากนิตยสารเกี่ยวกับความสวยความงาม ก็แหม ผู้หญิงอย่างเรามันต้องสวยต้องงาม ต้องดูแลนี่คะ จะมาปล่อยเนื้อปล่อยตัวได้อย่างไร  เดี๋ยวหนุ่มๆหายหน้าหมดกันพอดี เคล็ดลับที่จะมาเล่าให้ฟังวันนี้ มีทั้งหมด 40 เคล็ดลับ วันนี้อาจจะเล่าไม่หมด กลัวเพื่อนๆจะจำกันไม่หมด เอาเป็นว่า วันนี้เอาไปก่อนสัก 10 เคล็ดลับก่อนแล้วกัน มาเริ่ม 10เคล็ดลับแรกในการ เสริม เติม แต่ง ให้ชีวิตสดใสกันก่อนดีกว่า

  1. สวมรองเท้าให้เหมาะสมกับโอกาส จะเล่นกีฬา ไปเที่ยว หรือทำงาน เลือกให้เหมาะสมกับงานและกาลเทศะ
  2. คุณควรออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อาจทำความสะอาดบ้าน หรือเดินขึ้นบันไดก็อาช่วยได้
  3. คุณสาวๆอาจต้องกังวลเรื่องเล็บที่เป็นสีเหลือง เนื่องจากการทาเล็บ ควรใช้สำลีชุบน้ำมะนาวกดลงบนส่วนที่เหลือง ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกทาเล็บ
  4. ถ้าฟองน้ำเก่า คุณควรซื้อฟองน้ำใหม่แล้วหล่ะ เพื่อใช้สำหรับหการทารองพื้น ควรนำฟองน้ำชุบน้ำและบิดน้ำออกให้เหลือเพียงความชื้น ใช้เกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าเพื่อความสม่ำเสมอ
  5. ถ้าว่างควรเอ็กเซอร์ไซส์ โดยใช้อุปกรณ์คือ นำแผ่นไม้หนาประมาณ 2 นิ้ว แล้วยืนบนไม้โดยให้ส้นเท้าอยู่บนไม้ ปลายเท้าอยู่บนพื้น ส้นเท้าชิด ปลายเท้าแยกออกย่อเข่าให้น้ำหนักตัวอยู่ตรงกลาง ยืดแขนให้ตึงไปข้างหน้า หลังตรง เพียงเท่านี้ต้นขาก็กระชับขึ้นแล้ว
  6. เลิกพฤติกรรมการแต่งหน้าแบบจัดจ้านได้แล้ว หันมาแต่งแบบอ่อนๆ ไม่งั้นแก่เร็วไม่รู้ด้วยแต่งหน้า
  7. ส่วนเรื่องของทรงผม วิธีการเลือกง่ายๆเลย เพราะทรงผมที่รับกับใบหน้าคือ ทรงผมที่ตรงข้ามกับรูปหน้าเช่น ใบหน้ายาว ควรไว้ผมสั้นระดับคาง ไม่รวบ ใบหน้ากลม ควรไว้ผมยาว ใบหน้ารูปหัวใจให้ไว้ผมที่พองอยู่ตรงกลาง เท่านี้ก็พอแล้วทรงผมหน้าเหลี่ยม
  8. หลังจากที่คุณแปรงฟันแล้ว ไม่ควรปล่อยให้แปรงสีฟันชื้น เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำใหคุณมีกลิ่นปากได้ ควรนำไปผึ่งให้แห้งเพื่อการใช้ครั้งต่อไป
  9. เวลาอ่านหนังสือควรเลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดซะที ลองหาสก๊อตเทปมาปิดตรงคิ่ว แล้วลองดูซิค่ะว่าเวลาขมวดคิ้วแล้วเป็นอย่างไร รับรองว่าไม่สวยแน่อ่านหนังสือ
  10. การแต่งหน้าตอนกลางคืน คุณควรให้แสงไฟส่องเข้ามาบริเวณใบหน้าโดยตรง เพราะมันจะทำให้หน้าที่แต่งออกมาสวยเท่ากันทั้งหน้า

ที่มาจากหนังสือ Make Up ฉบับพิเศษ

ค่ะ ก็เป็นเคล็ดลับที่นำไปใช้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ บางคนอาจจะบอกว่ารู้แล้ว แต่บางคนอาจจะหลงๆลืม บางคนอาจจะยังไม่ทราบ เอาเป็นว่าอยากให้เพื่อนๆลองนำไปปฏิบัติดูนะค่ะ ได้ผลยังงัยก็มาเม้นท์ มาเล่าสู่กันฟังบ้าง บล๊อกพี่ปุ้ยจะได้ไม่เหงา วันนี้ลาไปก่อนค่ะ ลูกค้ามารอทำสีผมแล้ว ตอนต่อไปเรามาว่ากันตั้งแต่เคล็ดลับที่11 ถึง 20 ค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

Subscribe